ถ้าจะให้พูดถึงหนังอินเดียที่เราคิดว่ามันเลอค่า สนุก ได้แง่คิด
และเป็นหนังที่น่าจะแนะนำให้คนอื่นดู หนังเรื่องนั้นคงจะหนีไม่พ้น 3 Idiots
แน่นอนเลย
และมันก็จัดเป็นหนังเรื่องนึงที่คนไทยที่เริ่มเปิดใจให้หนังอินเดียมักจะหามาดูกันเป็นเรื่องแรกๆอีกด้วย
อย่างน้อยๆก็เท่าที่เราเจอมาจากสังคมพันทิปละนะ
เราคิดว่าหลายๆคนคงได้อ่านรีวิวของหนังเรื่องนี้กันไปแล้วไม่มากก็น้อย
แต่เท่าที่เราผ่านตามาส่วนมากจะเป็นรีวิวจากคนที่ไม่ได้เป็นติ่งอินเดียแต่เดิมเสียมากกว่า เอาละ
วันนี้อยากให้ติ่งอินเดียด้วยกันและคนอื่นๆได้ลองอ่านรีวิว 3 Idiots
จากคนที่เป็นติ่งอินเดียอย่างเราบ้าง
เนื้อหาคร่าวๆของ 3 Idiots นั้นพูดถึงชีวิตของเด็กหนุ่มวัยมหาลัย 3
คนที่เข้าไปเรียนในสถาบันด้านวิศวกรรมศาสตร์ชื่อดังของอินเดีย
ทั้งสามคนมีแนวทางชีวิตที่แตกต่างกันอย่างชิ้นเชิง เริ่มจาก Farhan Qureshi
รับบทโดย R Madhavan คนถัดมาคือ Raju Rastogi ที่รับบทโดย Sharman Joshi
และคนสุดท้าย Rancho หรือชื่อจริงว่า Ramaldas Chanchad รับบทโดย Aamir
Khan หรือพี่มีร์ของพวกเราชาวติ่งนั่นเอง และทั้ง 3
หน่อนี้ก็กลายมาเป็นเพื่อนรักกันในตลอดระยะเวลาของการเรียนในสถาบันแห่งนี้
เริ่มแรกเลยเขาเจอกับอาจารย์ใหญ่จอมโหดที่พวกเขาขนานนามว่าไวรัส รับบทโดย
Boman Irani ที่ก็เป็นพ่อของสาวสวยนักเรียนแพทย์อย่าง Pia
นางเอกของเรื่องที่รับบทโดย Kareena Kapoor Khan
และได้เจอเพื่อนเด็กเรียนที่ออกจะเห็นแก่ตัวแถมชอบปล่อยปุ๋งกลิ่นร้ายกาจอย่าง Chatur รับบทโดย Omi Vaidya
บอกตรงๆว่าหนังเรื่องนี้ไม่รู้จะหาอะไรมาชมดีเพราะมันชมได้ทุกส่วนเลยจริงๆ เลือกจุดที่จะชมไม่ถูก อันดับแรกที่นึกถึงคือการตีแผ่ปัญหาการศึกษาในโลกยุคปัจจุบันได้ดีมาก ความรู้คืออะไร เราเรียนกันไปทำไม วิธีการเรียนที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นมันใช่แล้วเหรอ ทั้งฉาก ทั้งบทสนทนาทำออกมาได้ดีมาก กลั่นออกมาจากสถานการณ์จริงของชีวิตคนที่เคยเป็นนักเรียนทั้งสิ้น ฉากที่เราโดนมากๆเลยคือตอนที่ Rancho เขียนคำสองคำบนกระดานแล้วให้ทั้งห้องรวมทั้งไวรัสเปิดหาความหมาย อีฉากนี้แม่งชีวิตจริงเราเลย สมัยเราม.ปลายเราเรียนศิลป์ฝรั่งเศส มันจะมีอาจารย์คนเบลเยียมคนนึงชอบให้ทุกคนแข่งกันตอบ ใครยกมือแล้วตอบได้ก็จะจดเป็นคะแนน เพื่อนๆทุกคนล้วนแต่ยกมือด้วยความกระหายคะแนนแย่งกันตอบ มีแต่เราที่นั่งเบื้อใบ้ รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้กระหายเลือดเพราะเราไม่ได้ชอบเรียนฝรั่งเศส (จริงๆอยากเรียนภาษาอื่นที่ไม่มีที่ไหนเขาสอนกันในม.ปลายเลยและเรียนเลขไม่ไหว ก็ต้องจำใจเรียนฝรั่งเศสไปวันๆ) เราไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นอยากรู้อะไรทั้งนั้น เข้าเรียนให้มันจบๆไป นานๆทีเราจะเฟคยกมือบ้าง ยกช้าไม่ให้เขาเรียกเพราะเรียกไปก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปตอบเขา ยกกันให้คนอื่นไม่มองว่าทำไมอินี่ประหลาดไม่อยากได้คะแนนหรือไงไปอย่างงั้นเอง เราสงสัยมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าเพื่อนๆมันอยากเรียนรู้จริงๆ ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่จริงๆ หรือทำเพราะมีคะแนนมาล่อใจกันแน่ บทของ 3 Idiots นี่ตีแสกหน้าทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรทุกแขนงในแวดวงการศึกษาได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะในบ้านเรา และปัญหาคลาสสิคอีกอย่างที่หนังพูดถึงก็คือการบังคับให้ลูกเรียนในสิ่งที่พ่อแม่คิดเอาเองว่าดี ทั้งๆที่ลูกอาจจะทำสิ่งอื่นได้ดีกว่ามากๆก็ได้ ประเด็นนี้ไม่รู้จะต้องพูดกันปากเปียกปากแฉะอีกกี่รอบพ่อแม่บางพวกถึงจะเข้าใจ
ส่วนถัดมาที่ชอบคือการเฉลี่ยน้ำหนักประวัติของตัวละครเพื่อนรักทั้ง 3 ได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้เราจะดูกันออกว่าพี่มีร์คือพระเอกของเรื่องนี้
แต่เราจะไม่รู้สึกเลยว่าบท Farhan กับ Raju ดูด้อยหรือมีความสำคัญน้อยกว่า
ที่สำคัญกว่านั้นเราชอบการ cast ด้วย
เรารู้สึกว่าหน้าตาและบุคลิกของตัวละคนมันเหมาะกับดาราที่เลือกมาแสดงมากๆ
มันเหมาะเจาะลงตัวไปหมด คนอย่าง Farhan
ที่อยากเป็นช่างภาพชีวิตสัตว์ป่ามากกว่าจะเรียนวิศวะมันจะต้องมีรูปพรรณสัณฐานแบบ R Madhavan นี่แหละ มันไม่ควรเป็นแบบอื่น
และนักศึกษาที่มาจากครอบครัวฐานะไม่สู้ดีนักจึงแบกรับแรงกดดันไว้มากมาย
รวมทั้งต้องพึ่งเทพเจ้าอยู่ตลอดเวลาก็ดูเหมาะกับรูปร่างท่าทางของ Sharman
Joshi เอามากๆ ลองนึกว่าถ้าเอาสองคนนี้มาสลับบทกันมันคงไม่ใช่เลย
มันต้องออกทะเลแน่ๆ จะไม่ดีงามแบบนี้แน่นอน รวมทั้งไอ้เจ้า Chatur ด้วย
เขาเลือกคนที่หน้าตาน่าหมั่นไส้จริงๆพับผ่าเถอะ
ถ้าเป็นเราเจอเพื่อนนักเรียนแบบนี้คงหมั่นไส้ไม่เบาแหละ อีกจุดนึงที่ชอบ
ไม่รู้จะเอาไปใส่ไว้ตรงไหน ขอพูดในย่อหน้านี้แล้วกัน เราชอบที่เลือกตัว
Farhan มาเป็นคนเริ่มเรื่องและบรรยายเรื่องทั้งหมด
ถ้าเป็นคนอื่นมันคงไม่ใช่อะ ไม่รู้สิ แต่เราชอบและคิดว่าคนนี้เหมาะสุดแล้ว
ชมนักแสดงกับการ cast ไปแล้วสิ่งที่ต้องชมต่อมาคือการแต่งหน้าและดูแลเสื้อผ้า
ในซีนที่เป็นผู้ใหญ่วัยทำงานเต็มตัวกับซีนนักศึกษาเขาทำออกมาได้เนียนดีมาก
เราดูแล้วเชื่อจริงๆว่าคนที่สมัยเรียนมีสภาพแบบนั้นมีประวัติเรื่องราวแบบนั้น พอเรียนจบมา โตเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่การงาน มันจะต้องทำผมแบบนี้
แต่งตัวราวๆนี้ แม้แต่ถ้ามันจะมีเมียก็ต้องลุคประมาณนี้
ดูแล้วมันรู้สึกใช่ไปหมดน่ะ ทึ่งนะว่าเขาทำได้ยังไงกัน
ที่สำคัญคือเขาสามารถทำให้พี่มีร์ในวัย 40
กว่าดูเป็นนักศึกษาได้นี่มันเริ่ดมากจริงๆ
ไม่มีดารารุ่นสี่สิบกะรัตประเทศไหนแล้วที่กล้าแอ๊บเล่นเป็นนักศึกษาตลอดเกือบทั้งเรื่องแบบนี้
อย่างดีก็เล่นกันแค่ซีนย้อนยุคนึกถึงอดีตไม่กี่สิบนาที
น่าทึ่งจริงๆดาราอินเดีย
แล้ว
3 Idiots ก็ไม่ใช่หนังตลกเสียดสีการศึกษาแค่อย่างเดียวนะ การรับน้องในมหาลัยก็โดนเสียดสีด้วย ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าที่อินเดียก็มีการรับน้องด้วยวิธีที่อีเดียทไม่แพ้กับของไทย และก็ได้ Rancho พระเอกของเรื่องนี่แหละเป็นตัวปฏิวัติความคิดว่าทำไมรุ่นน้องถึงต้องไปทำอะไรบ้าๆบอๆตามความต้องการของรุ่นพี่โดยที่หาประโยชน์ไม่ได้ด้วย มานึกๆดูแล้วเห็นคนที่ไม่ใช่ติ่งอินเดียชอบหนังเรื่องนี้กันเยอะมาก จะมีอีพวกที่คลั่งการรับร้องคนไหนมั้ยที่ดูฉากนี้แล้วสะท้อนใจตัวเอง
ความดีงามอีกย่างคือพล็อตที่มีจุด conflict ซ่อนไว้ด้วย
ดูๆไปไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีจุดนี้โผล่มาแต่มันก็มี
และมันก็สามารถเติมเต็มเนื้อเรื่องได้อย่างงดงามเลยทีเดียว
คงต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้ Rajkumar Hirani แล้วละ
แต่จุดที่ติก็มี ไม่ใช่ไม่มี และคิดว่าหลายๆคนคงสังเกตเห็นด้วย
คือหนังพูดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นก่อนปีที่มันสร้าง (2009) พักนึง
อย่างน้อยๆก็ 6-7 ปีได้ แต่กลับมี Youtube โผล่มาแล้ว มาจากไหนได้ยังไง
พลาดจังเบ้อเร่อ โดนแซวไปหลายปีเลยละกับความพลาดครั้งนี้
แต่นอกนั้นต้องบอกว่าไม่มีที่ติจริงๆ กลมกล่อม สนุกสนาน มีแง่คิดเจ็บๆคันๆ
งดงามตามท้องเรื่องมาก
และนี่คือหนังที่ทุกคนต้องดู ถ้าคุณใช้ชีวิตแบบสังคมคนเมือง
(ไม่ได้อยู่ป่าเขาขุดหาของป่าไปวันๆโดยไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้)
เป็นหรือเคยเป็นนักเรียน เป็นหรือกำลังจะเป็นผู้ปกครอง
เป็นหรือกำลังจะเป็นคนในแวดวงการศึกษา หรือแค่เป็นประชาชนคนหนึ่ง
หนังเรื่องนี้พลาดไม่ได้
ดูแล้วทำความเข้าใจกันใหม่ว่าการศึกษาและความรู้ที่แท้จริงมันคืออะไร
เพื่อตัวเองและเพื่อลูกหลานเราในวันหน้า เพราะ ...
"This is a college not a pressure cooker."
ไม่เคยลืมหนังและบทเพลงGive me for some sunshine มีความสุขทุกครั้งที่ฟังดูคะ����
ReplyDeleteเป็นหนังที่หยิบมาดูได้บ่อยๆเรื่องนึง ดูทีไรก็ยังรู้สึกสนุกและอิ่มใจไปกับความงดงามของมิตรภาพในวัยเรียนของสามหน่อนั่น
Deleteไม่เคยลืมหนังและบทเพลงGive me for some sunshine มีความสุขทุกครั้งที่ฟังดูคะ����
ReplyDeleteชอบหนังเรื่องนี้ เพลงก็น่ารัก ชูบิดู ชูบิดู น่ารักดี
ReplyDeleteเป็นเพลงเต้นจีบกันที่คนที่ไม่ใช่แฟนหนังอินเดียหลายคนไม่นึกตั้งแง่เลยละ น่ารักจริงๆ
Deleteเพลงน่ารัก หนังสนุก เนื้อเรื่องมีข้อคิด ชื่ออีเดียต แต่ไม่อีเดียตแบบชื่อเลย
ReplyDeleteเนอะๆ หนังเรื่องนี้ออกจะฉลาด
DeleteVery Nice site and it is helpful info. Also check out
ReplyDeleteThanks and keep sharing info on Akshay Kumar Upcoming Movies