หลายๆคนที่ไม่ใช่แฟนหนังอินเดียอาจจะยังมีความเข้าใจผิดๆว่าหนังของพระเอกอินเดียแบบ big name โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังจากพระเอกระดับซูเปอร์สตาร์จากฝั่ง Bollywood แล้วเนี่ย มักจะเป็นพวกหนังรักหวานหยด เต้นจีบกันกับนางเอกสวยๆ โชว์ท่าเต้นสเต็ปเทพ on the dance floor หรือไม่ก็เป็นหนังบู๊แบบที่ 10 รุม 1 พระเอกของเรายังรอดมาได้ หรือไม่อีกทีก็จับมาผสมกันเลย เป็นยอดพระเอกที่เป็นทั้งนักรักและนักบู๊ในคนเดียวกัน แต่เราต้องขอให้ทำความเข้าใจกันใหม่เลย หนังอินเดียเดี๋ยวนี้ไม่ใช่จะนำเสนออะไรแบบภาพเก่าๆในยุค 70-80 สมัยที่พ่อแม่เรายังเด็กอีกแล้ว พล็อตเขาพัฒนาไปไกลกว่านั้นมากแล้ว หนังอินเดียหลายๆเรื่องเลือกที่จะนำเสนอประเด็นหนักๆ แล้วก็เป็นประเด็นระดับโลกด้วยซ้ำ อย่างหนังที่เราเลือกมารีวิวในวันนี้ก็เหมือนกัน
My Name Is Khan เป็นหนังของสุดยอดซูเปอร์สตาร์ฝั่ง Bollywood อย่างป๋า SRK ของเราชาวติ่งอินเดีย พร้อมด้วยคู่ขวัญตลอดการอย่าง Kajol เนื้อเรื่องนี่แตะประเด็นที่หนักเอาการ เป็นประเด็นที่หนังทำขายหวังเงินทั่วโลกไม่ค่อยกล้าจะแตะกันสักเท่าไหร่ เพราะมันว่าด้วยความอคติที่คนอเมริกันมีต่อศาสนาอิสลาม จะบอกว่าเล่นกับ Islamophobia ก็คงจะไม่ผิดนัก เนื้อเรื่องพูดถึง Rizvan Khan ผู้ชายมุสลิมชาวอินเดียคนนึง เขาเป็น Asperger Syndrome หลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิตลง น้องชายที่ย้ายไปอยู่อเมริกานานแล้วก็รับเขาไปอยู่ด้วย น้องชายเปิดบริษัทขายเครื่องสำอางแนวสปาแบบตะวันออกก็เลยให้พี่ชายผู้มีอาการเอ๋อนิดๆไปทำหน้าที่เซลล์ มีวันนึงเขาเดินทางไปขายของ เขาหยุดยืนริมถนนและมองเข้าไปยังซาลอนแห่งนึงและเจอเข้ากับสาวสวยช่างทำผม นอกจากจะขายของได้แล้วยังเหมือนจะได้ใจเธอมาอีก เธอก็เป็นคนอินเดียเหมือนกัน เธอเป็นฮินดูและเป็นแม่ม่ายลูกติด แต่ในที่สุดความผิดปกติหรือศาสนาก็ไม่ใช่อุปสรรค ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข ลูกชายก็เข้ากับพ่อเลี้ยงได้ดีไม่มีปัญหา บรรดาเพื่อนร่วมงานและเพื่อนบ้านก็ดูจะโอเคกับเขา แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ในวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ที่เปลี่ยนชีวิตของครอบครัวนี้ไปตลอดกาล ความจริงแล้วก็ไม่ใช่เฉพาะครอบครัวนี้นะ ชีวิตคนทั้งโลกเลยแหละ
ก่อนอื่นต้องขอชมป๋าก่อนเลยว่าเล่นเป็น Asperger ได้ตีบทแตกมากๆ เหมือน born to be เลยอะ น่ารักมากๆ เห็นแล้วต้องตกหลุมรักได้แน่ๆ คือถ้ามีคนเป็น Asperger แบบ Rizvan มาจีบนะ เป็นเราๆก็เอา ฮ่าๆๆ ป๋าเล่นได้น่ารักมากจริงๆ พอบทที่ต้องเครียดป๋าก็ทำได้ดีมาก ดูแล้วอินดูแล้วเชื่อ ตัวละครอื่นก็เหมือนกัน ทั้ง Kajol ทั้งตัวสมทบอื่นๆที่บทไม่เยอะมากต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีสุดๆ ทุกคนตรึงเราไว้หน้าจอได้แบบไม่กระพริบตาเลย เป็นอีกเรื่องที่ต้องยกตำแหน่ง "หิวข้าวกลั้นหิว ปวดฉี่อั้นฉี่" ให้เลยอะ แต่ที่เราชอบเป็นพิเศษก็คือตัวละครเด็กที่เล่นเป็นลูกชายกับเด็กอีกพวกที่เป็นเพื่อนที่โรงเรียนของเจ้าหนูนี่ จำไม่ได้ว่าพวกมันมากันกี่คน ไม่ว่าจะกี่คนก็ช่าง แค่ฉากนี้เพียงฉากเดียวมันโคตรบีบคั้นหัวใจเลย เป็นฉากที่พีคที่สุดในความเห็นของเราเลยนะ
อีกจุดที่เราประทับใจมากก็คือตอนที่ Rizvan เริ่มออกเดินทางไปพบประธานาธิบดี เขากลับต้องตกเครื่องเพราะความงี่เง่าของเจ้าหน้าที่ตม. เลยต้องดินทางด้วยรถบัสและเท้าแทน และเขาก็แวะหมู่บ้านของคนแอฟริกัน-อเมริกัน ช่วงเวลาที่นั่นทำให้เขาเจอกับคนที่เข้าใจและยอมรับในความแตกต่างของเขาได้อย่างจริงใจ จนกระทั่งเขาจากมาแล้วและได้รู้ข่าวว่าพื้นที่ตรงนั้นน้ำท่วม เขาก็ย้อนกลับไปเพื่อช่วยคนในพื้นที่ให้ปลอดภัย รวมทั้งขนพรรคพวกคนมุสลิม/อินเดียจากเมืองอื่นมาช่วยด้วยอีกแรง เฮ้ย มันดีอะ มันทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้ยังมีหวังท่ามกลางกระแสความเกลียดชังหรือรังเกียจในความแตกต่าง นักแสดงที่เล่นเป็นคุณแม่คนดำนั่นก็เล่นดีมากจริงๆ ตัวอ้วนใหญ่ตามสไตล์ขุ่นแม่ผิวดำแต่จิตใจอ่อนโยน น่ารักมากๆเลย
พูดถึงเรื่องหมู่บ้านคนดำและฉากน้ำท่วมแล้วก็ต้องขอชมต่อ เราชอบเซ็ทฉากของน้ำท่วมนะ เหมือนมีพายุใหญ่เข้าอะไรสักอย่างอะ พวกภัยพิบัติแบบที่อเมริการัฐทางใต้ๆหน่อยชอบเจอกัน ไม่ใช่แค่ฝนตกเยอะแล้วน้ำท่วมอย่างบ้านเรา คือมันดูท่วมแบบภัยพิบัติมาจริงจังมาก ไม่ดูโหลกลาเล่เก๊แบบท่วมขำๆสามวันน้ำลด ท่วมแบบเซ็ทฉากในอ่างโง่ๆอะ ของเขาดูน่ากลัวจริง วิบัติข้าวของเสียหายชีวิตชิบหายล้มละลายหมดตัวไปกับสายน้ำจริงๆ
My Name Is Khan กำกับโดย Karan Johar หลายๆคนถ้าได้เห็นลุคของผู้กำกับอาจจะไม่เชื่อว่ากำกับหนังเนื้อหาแนวนี้ แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าเขาทำมันได้อย่างงดงามจริงๆ เป็นหนังผลงานของเขาที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ และก็ยังได้ 2 หนุ่มหล่อดาราลูกหม้อของเจ๊การันต์ (เอาก็เอาวะ โป๊ะแตกเรียกเจ๊จนได้ พวกเราชาวติ่งเรียกแกว่าเจ๊มานานละ เราจะแอ๊บเรียกเขางั้นเขางี้เพื่อความสุภาพก็โคตรฝืนตัวเอง อิอิ) มาร่วมเป็นผู้ช่วยผู้กำกับอีกนะ ได้แก่ Sidharth Malhotra กับ Varun Dhawan ทั้ง 2 หนุ่มนี้ได้ร่วมงานกับเจ๊ในการช่วยกำกับหนังเรื่องนี้ก่อนที่จะเข้าตาเจ๊และจับไปลงเล่น Student of The Year ในที่สุด (ไว้วันหลังจะรีวิวละกัน)
ยังจบไม่ลง เมื่อกี้จริงๆกดเซฟเข้า stock post ไปแล้วนะหลังจากที่ลง trailer ไว้ด้านบน แต่พอได้ดูมันอีกรอบก็เลยนึกข้อชมขึ้นมาได้อีก คือซาวนด์ประกอบ score ต่างๆนี่ดีมาก ขับอารมณ์ได้ดีสุดๆ ที่สำคัญเสียงของป๋าเวลาบรรยายทุกสิ่งทุกอย่างในนั้นมันบิ้วอารมณ์ดีมาก ยิ่งตรงประโยคที่ว่า My name is Khan and I'm not a terrorist. นี่โคตรโดนอะ เสียงเพราะจังเลย
ก่อนจากฝากไว้เลยว่า My Name Is Khan เป็นหนังอินเดียอีกเรื่องที่เราอยากจะให้หามาดู เพื่อนๆต่างชาติเราก็ดูกันหลายคน ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น ดูแล้วก็ชอบกันหมด เพราะฉะนั้นจะบอกว่า It's a must! เลยก็คงไม่เกินไปหรอก ไม่ต้องชอบป๋าก็ดูได้ ดูแล้วจะรักจะหลงป๋าแบบเราแน่นอน กล้าการันตี (ใครดูแล้วยังไม่รักให้ส่งแมสเสจมาหาเลย จะซื้อแผ่น Rab Ne Bana Di Jodi ให้ฟรีๆอีกแผ่น ดูยังไม่หลงรักอีกแม่มก็ให้มันรู้ไป๊) ยิ่งอีพวกที่ชอบมีอคติกับคนเพียงเพราะเรื่องศาสนานี่ยิ่งต้องหามาดูให้จงหนัก เผื่อมันจะช่วยลดไอ้ความเกลียดชังในใจได้บ้างไม่มากก็น้อย
เป็นหนังที่ดีมากๆๆครับ
ReplyDeleteนานๆจะมีคอมเนท์สักที ดีใจจังฮะ หวังว่าจะติดตามกันต่อไปเรื่อยๆนะ
Deleteชอบดูหนังอินเดียมากๆเลย รอชมและหรออ่านรีวิวนะครับ อยู่อเมริกาเจอคนอินเดียทุกวันเลย ^^
ReplyDeletemy name is khan was the best of shah rukh khan
ReplyDeleteYes, I personally think so too.
Deleteอยากรู้อะคะว่าสามารถหาดูได้จากไหนได้บ้าง ซื้อแผ่นก็ได้นะคะ หรือตามเว็บก็ได้ อยากดูมากๆหาไม่เจอเลย
ReplyDeleteไปดูในเวบ eihthusan ได้เลยฮะ ลอง search ใน Google ดูนะฮะ
Deleteขอบคุณนะคะ
Delete