Saturday 6 August 2016

Alone - Chaarulatha

 
หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้กันมาก่อนว่ามีหนังอินเดียเคยซื้อหนังจากไทยเราไปรีเมคใหม่ด้วยแหละ และวันนี้เราจะเอาหนังทั้ง 2 เรื่องที่ซื้อไปจากหนังเรื่องแฝดของค่าย GTH บ้านเรามารีวิวกัน โดยเรื่องแรกเป็นหนังจากฝั่ง Bollywood ที่ชื่อ Alone และอีกเรื่องเป็นหนังที่ร่วมกันทำจากทั้งวงการเตลูกู ทมิฬ และกันนาดาด้วย ลองมาดูกันดีกว่าว่าแฝดในแบบอินเดียแต่ละเวอร์ชั่นจะเป็นยังไงกันบ้าง
Alone
                                                                                                          Source

เนื้อหาคร่าวๆของหนังก็คือตัวนางเอกกับสามีกลับไปดูแม่ที่ป่วยในเมืองบ้านเกิด ระหว่างที่กลับไปพักบ้านที่ตัวเองอยู่มาตั้งแต่เด็กก็เจอกับผีที่นางเอกเข้าใจว่าเป็นผีคู่แฝดสยามของตัวเองที่ตามมาหลอกหลอน พระเอกก็เป็นห่วง เข้าใจว่านางเอกมีปมจากการที่คู่แฝดต้องตายไป ฮีก็เลยพยายามหาจิตแพทย์มาช่วยรักษา แต่ผีคู่แฝดก็อาฆาตแรงมาก สุดท้ายจึงต้องพึ่งพาหมอผีให้มาปราบ แต่จะปราบได้หรือไม่ ปราบยังไง แล้วทำไมคู่แฝดถึงตาย อันนี้ทิ้งให้ไปตามกันต่อเอง แต่สำหรับคนที่เคยดูแฝดของไทยแล้วก็น่าจะรู้กันดีแล้วแหละว่าจบยังไง ส่วนตัวเราไม่เคยดูมาก่อน เราเริ่มจากการดู Alone ก่อนเลย ดังนั้นเราจะไม่รีวิวแบบเปรียบเทียบกับต้นฉบับของบ้านเราก็แล้วกันนะ แฟร์ๆไปเลย เปรียบเทียบกันเอง 2 เวอร์ชั่นของอินเดียเท่านั้น

Alone pic
                                                                                                           Source
Chaarulatha
                                                                                                           Source

ในส่วนของ Alone เราว่าแคสติ้งวายป่วงมาก นำแสดงโดย Bipasha Basu และ Karan Singh Grover ทั้งสองคนดูเซ็กซี่เกินบทไปมากเมื่อเทียบกับ Chaarulatha ที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนในปี 2012 แต่ก็เอาละ เราอาจจะมองได้ว่าเป็นการตีความใหม่ให้ตัวละครเซ็กซี่มากขึ้นก็คงไม่ผิดอะไร แต่ในความรู้สึกเราความเซ็กซี่พวกนั้นมันแย่งซีนของเนื้อหาจริงๆไปหมดเลย พล็อตมันเข้มข้นมากนะ แต่ความเซ็กซี่มันมากไปจนน่ารำคาญ ทั้งลุคของตัวละครและเสื้อผ้าหน้าผมมันล้นเกินไป จะเซ็กซี่ไปขนาดนั้นเพื่อ? สภาพแย่เหมือนหนังสยองขวัญทุนต่ำของอเมริกาเลยอะ หรือพวกหนังแผ่นขายเซ็กซี่ของบ้านในยุคที่แผ่น VCD กำลังบูมๆ ทำให้หน้าหนังแย่มากอะพูดเลย แต่ Alone มีข้อดีก็คือการเล่าเรื่องและตัดต่อที่น่าติดตามมากๆ อาจจะเพราะความเป็น Bollywood ที่มีทุนสูงกว่าก็เป็นได้ มันเลยทำให้เนื้อเรื่องช่วงหลังที่จะเฉลยปมของนางเอกและคู่แฝดดูน่าลุ้นมากขึ้น มันพลิกไปพลิกมาว่าสรุปคนที่อยู่ข้างพระเอกคือแฝดคนไหนวะ ตัวร้ายหรือตัวดี แล้วแฝดคนไหนกันแน่ที่ตาย แล้วตายยังไง ตายเพราะใครทำหรือตายเพราะความผิดพลาดของหมอจริงๆ มันลุ้นมากสนุกมากนะในจุดนี้ ยิ่งการแต่งหน้าแบบผีและเอ็ฟเฟ็คตรงที่เอาหมอผีมาทำพิธีสะกดวิญญาณนั่นก็เท่และดูอินเตอร์มาก ตรงนี้คือจุดที่เราชอบ

Alone-horror
                                                                                                                         Source
                                                                                                          
Chaarulatha-cast
                                                                                                                         Source
ต่างกันกับ Chaarulatha ที่ดีงามกว่ามากในแง่ของแคสติ้ง สองแฝดนำแสดงโดย Priyamani ส่วนพระเอกนำแสดงโดย Skanda บทนางเอกที่ต้องเป็นสองแฝดมันดูน่าเชื่อมากอะ เสื้อผ้าหน้าผมอะไรมันเรียลอะ คือมันจะมีแฝดตัวดีและตัวร้ายใช่ปะ เรารู้สึกว่า Priyamani เหมาะสมที่จะเล่นเป็นได้ทั้งตัวดีและตัวร้ายเลย ในขณะที่ Bipasha เป็นนางเอกแนวเซ็กซี่มาตลอด พอต้องมาเล่นเป็นนางเอกตัวดีแต่ยังคงความเซ็กซี่เอาไว้แล้วมันแบบ ... อัลไลอ้ะ ... ตอนดูมันให้ฟีลแบบนั้นจริงๆนะ คือมึงเอาสักทางได้มั้ย ในอดีตดูแบ๊วๆใสซื่อ โตมาเซ็กซี่ซะงั้น มันแปลกๆไปอะ เราว่าบทนางเอกของ Chaarulatha ทำได้เนียนกว่ามาก สมจริงกว่ากันเยอะเลย รวมทั้ง Priyamani ก็เล่นดีมาก ทำให้เรารู้สึกถึงอารมณ์ริษยาของแฝดตัวร้ายได้ดีกว่า Bipasha ตัวพระเอกก็เหมือนกัน ในเนื้อเรื่องส่วนที่ย้อนอดีตเราจะได้เห็นว่าพระเอกเป็นคนที่แสนดีคนนึงและ มีความอาร์ทในตัว ซึ่ง Skanda ทำได้สมบทบาท เราดูแล้วเชื่อจริงๆว่าเป็นผู้ชายแบบนั้น ในขณะที่ Karan ถือว่าสอบตก ฮีไม่ได้มีลุคที่ดูเป็นผู้ชายแสนดีหรือมีความติสท์ในตัวเลย ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่ใช่ ดูแล้วไม่เชื่ออย่างแรง แต่ Chaarulatha มาพลาดมากเอาตรงการแก้ปมของนางเอก มันเหมือนหนังสูตรเกินไป น่าเบื่อ ไม่มีความลุ้นอะไรเลย จริงอยู่ว่าเราดู Alone มาก่อนแล้วย่อมจะรู้ตอนจบ แต่อันนี้ขาดความลุ้นทุกประการ มุกตื้น ปมตื้น ไร้ลูกล่อลูกชนแบบที่ Alone มี ดีว่ายังใส่ฉากนางเอกตัวร้ายบู๊กับพระเอกมาหน่อยนึง ถือเป็นรสชาติที่แปลกใหม่พอสมควร และมีเด็กอ้วนลูกแม่บ้านมาคอยเปลี่ยนบรรยากาศให้ไม่อึมครึมจนเกินไป

Bipasha twins
                                                                                                                         Source
Chaarulatha-twins
                                                                                                                         Source
หลังจากที่ชั่งน้ำหนักจากข้อดีข้อเสียแล้ว เราว่าทั้ง Alone และ Chaarulatha นี่พอๆกัน มีส่วนดีส่วนเสียคนละแบบแต่ชั่งน้ำหนักออกมาแล้วมีน้ำหนักเท่าๆกันทั้งสองส่วน เรื่องนึงแคสติ้งพังแต่เส้นเรื่องดี วางปมและแก้ปมได้ดี มีลูกล่อลูกชน ทำออกมาน่าลุ้นดี เรียกว่ายกเครดิตให้ผู้กำกับ Bhushan Patel และคนเขียนบทเลยจะดีกว่าแล้วไปด่าทีมแคสติ้งกับทีมคอสตูมแทน บอกตรงๆว่าถ้าเปลี่ยนคนแสดงและลดความเซ็กซี่ลงนี่ Alone ปังไปแล้ว ส่วนอีกเรื่องแคสติ้งดีกว่ากันมาก ต้องขอชมทีมแคสติ้งเลยละ ดูแล้วอินในความเป็นตัวละคร เรียลดี น่าเชื่อถือ แต่การวางปมแก้ปมอะไรกลับทำได้ทื่อมะลื่อ น่าเบื่อ ไม่ชวนติดตามเลย คนเขียนบทพาผู้กำกับ Pon Kumaran ลงเหวก็ว่าได้ ถ้าเอาทีมบทของ Alone มาใช้กับตัวแสดงแบบที่ Chaarulatha มี เราว่าก็ออกมาปังอีกเช่นกัน เลยสรุปให้คะแนนออกมาเท่าๆกันไปแหละ ทั้งคู่ไม่ใช่หนังที่ดีอะไรมากนักแต่ก็เรียกว่าพอดูฆ่าเวลาได้เพลินๆ
point


Monday 1 August 2016

3

อย่างที่เราเคยพูดไปหลายรอบแล้วว่าหนังอินเดียไม่ได้มีแค่วงการหนังบอลลีวู้ดเท่านั้น ที่ผ่านมาเราก็เคยแนะนำหนังภาษาอื่นจากวงการหนังภูมิภาคอื่นกันไปบ้างแล้ว ครั้งนี้ถึงคิวของหนังทมิฬซักที กับเรื่อง 3 ซึ่งเป็นหนังแนวโรแมนติคผสมกับ psychological thriller หนังเรื่องนี้กำกับโดย Aishwarya R. Dhanush หรือภรรยาของนักแสดงนำคนเก่งของเรื่องอย่าง Dhanush นี่เอง

Three-movie
                                                                      Source


3 กล่าวถึงความรักของ Ram กับ Janani ที่เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ทั้งคู่ยังอยู่ในวัยมัธยมปลาย หนังเปิดเรื่องขึ้นมาที่ฉากการตายของ Ram ในวัยผู้ใหญ่ รอยเลือดที่สาดกระเซ็นเต็มผนังห้องทำงาน Janani ที่นั่งร้องไห้ปิ่มจะขาดใจอยู่ที่ห้องนั่งเล่นข้างๆโดยมีผู้เป็นแม่คอยปลอบ เธอย้อนคิดถึงคืนวันเก่าๆของเธอและ Ram ที่มีความสุข Ram ดักรอเธอแถวโรงเรียนสอนพิเศษทุกวัน จากตอนแรกที่เธอเฉยๆกับเขาแต่เวลาเพียงไม่นานเธอก็เริ่มมีใจ เมื่อความรักของทั้งคู่สุกงอม พ่อแม่ของเธอกลับกีดกัน แต่ทั้งคู่ก็ดื้อดึงที่จะรักกันและฝ่าฟันทุกอย่างได้ในที่สุด ทั้งสองคนใช้ชีวิตแบบคู่ผัวเมียที่มีความสุขเรื่อยมา จนวันนึงเธอพบว่าสามีแปลกๆไป มีเพื่อนชายคนสนิทของสามีที่มักจะแวะมาค้างที่อพาร์ทเมนท์ของเธอกับเขาบ่อยๆ และวันคืนที่โหดร้ายก็มาถึง เธอพบว่าสามีเธอเสียชีวิตภายในห้องทำงานของเขา บนเก้าอี้ทำงานตัวโปรด พร้อมรอยเลือดที่สาดกระเซ็นไปรอบห้อง ใครเป็นคนฆ่าสามีเธอกันนะ

Janani-3
                                                                                         Source

Janani ที่รับบทโดย Shruti Hassan ในช่วงวัยมัธยมนั้นงามหยดมาก เธอทำผมแสกกลางแต่ถักเปีย หน้าขาว ตาคม สวยหวานบาดใจ เราเห็นแล้วยังอดตกหลุมรักเธอไม่ได้ ดูแล้วเชื่อสนิทใจว่าเด็กผู้หญิงคนนี้แหละที่ทำให้ไอ้หนุ่ม Ram ของเราถึงกับเพ้อไม่กินไม่นอนได้ขนาดนั้น ตั้งแต่เคยติดตามหนังของ Shruti มาเราคงต้องบอกว่า 3 คือหนังที่เธอสวยที่สุดแล้วจากหนังทั้งหมดในชีวิตการแสดงของเธอ

3-Shruti-Dhanush
                                                                                          Source

สิ่งที่เป็นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การแสดงอันน่าสะพรึงของ Dhanush ใครจะไปเชื่อว่าพระเอกทางใต้ตัวดำๆผอมๆจะฝีมือดีขนาดนี้ เขาเริ่มเล่นตั้งแต่วัยมัธยมปลายไปจนถึงวัยทำงาน แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับการที่เขาต้องรับบทเป็นคนที่มีอาการไบโพลาร์ด้วย คนที่มีอารมณ์ปกติดีมาตลอดจะต้องทำการบ้านหนักมากที่จะเล่นเป็นคนซึ่งมีอารมณ์ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นัก ในแต่ละฉากที่ต้องแสดงถึงความซึมเศร้า Dhanush ก็ทำได้ดีมาก ซึมเศร้าสมจริงสมจัง ในซีนที่อาการ mania กำเริบขึ้นมาเขาก็ดูไฮเปอร์และน่ากลัวได้อย่างน่าขนลุก พูดง่ายๆว่าจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยละ

Dhanush-Shruti-3
                                                                                          Source

แต่นั่นก็มาพร้อมกับการติติงของเรา เท่าที่ดูแล้วเราคิดว่าหนังใส่บทความ mania สุดขั้วไปสักหน่อย อาจจะส่งผลให้คนดูบางคนที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาการไบโพลาร์หรือคนที่เป็นไบโพลาร์เกิดความเข้าใจผิดต่อโรคและคนที่เป็นโรคนี้ได้ สื่อจะต้องระมัดระวังในการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวกับอาการผิดปกติทางอารมณ์ในลักษณะต่างๆให้มากหน่อย เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบต่อคนป่วยที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในสังคมจริงๆได้ด้วย

Ram with friends
                                                                                         Source

อีกจุดนึงที่เราชอบก็คือคนที่รับบทเป็นเพื่อนซี้ของ Ram เราไม่ได้ติดใจที่การแสดงหรือหน้าตาอะไรนะ คือฮีก็ไม่ได้แสดงเลวหรือหน้าปลวกอะไรหรอก แต่เราชอบตัวละครตัวนี้มากเลย เราคงสปอยล์เนื้อเรื่องมากกว่านี้ไม่ได้อะนะเพราะมันจะหมดสนุกเอาแน่ๆถ้าพูดมากไป แต่อยากให้จับตาตัวละครตัวนี้ให้ดี คนๆนี้เป็นกัลยาณมิตรมากเลย เป็นเพื่อนที่ใครๆก็น่าจะอยากได้อยากมีไว้ในชีวิตสักคน เป็นเพื่อนที่รักเพื่อนจริงๆ เข้าใจเพื่อนและพร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนไปตลอดจนถึงวาระสุดท้ายของเพื่อนรัก ดูแล้วก็อิจฉา Ram เลยนะที่มีเพื่อนดีๆอย่างตาคนนี้ ถึงตายก็ไม่เสียดายเพราะชีวิตได้พบเพื่อนที่ล้ำค่าขนาดนี้แล้ว

Three-3
                                                                         Source

อย่างที่บอกไปแหละว่าหนังเรื่องนี้เล่าอะไรมากไม่ได้จริงๆ สารภาพว่าจนปัญญาที่จะเขียนออกมาให้รู้สึกอ่านสนุกและกระตุ้นให้อยากดูหนังไปพร้อมๆกันได้ แต่ขอเอาเกียรติของติ่งอินเดียรับประกันเลยว่า 3 ควรค่าและคุ้มค่ากับการดูอย่างแน่นอน อย่าประเมินพระเอกร่างผอมตัวดำคนนี้ต่ำไปนัก พลังการแสดงของเขาล้นเหลือจริงๆ อย่ายึดติดภาพพระเอกหล่อๆจากหนังบอลลีวู้ดอย่างเดียว พระเอกทางนั้นก็ดีๆเก่งๆหลายคนไม่เถียงเลยเพราะเราเองก็ปลื้มอยู่ แต่เราอยากให้เปิดใจมองพระเอกจากหนังฝั่งใต้ด้วย ความเป็นคนใต้อาจจะมีรูปร่างหน้าตาไม่โสภา ไม่เข้าสเป็คคนไทยเราเท่าไหร่นัก แต่ทำใจกว้างสักนิด เสพย์งานแสดงชั้นดี เราเชื่อว่าคุณจะหลงรักพระเอกที่ชื่อ Dhanush ได้ไม่ยากเลยละ