สาเหตุนึงที่เราติดหนังอินเดียหนึบหนับคือหนังอินเดียหลายๆเรื่องเลือกที่จะเสนอประเด็นใกล้ตัวในแบบที่หาไม่ค่อยได้ในหนังฝรั่งและหนังไทย
อย่างหนังอินเดียที่เราจะเอามาแนะนำในวันนี้ก็เหมือนกัน Oh My Friend
เป็นหนังจากทางใต้ หนังภาษาเตลูกู นำแสดงโดย Siddharth Narayan และ Shruti
Hassan ประเด็นของหนังเป็นเรื่องที่ถือว่าคลาสสิคมากสำหรับสังคมไทย
(และอาจจะที่อินเดียด้วย) คือ "ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้จริงเหรอ?"
Chandu กับ Siri เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ยังเด็กมาก เรียกว่าเห็น Chandu
ที่ไหนก็ต้องเห็น Siri ที่นั่นเหมือนเงาตามตัว เวลาผ่านไปจนทั้งคู่เรียนจบ
Chandu มีความใฝ่ฝันจะเป็นมือกีต้าร์ชื่อดัง
แต่พ่อของเขาไม่ค่อยยอมรับเท่าไหร่เพราะเขายังดูไม่เป็นโล้เป็นพายเท่าที่ควร ก็ได้ Siri นี่ละที่คอยกระตุ้นให้ทำนั่นทำนี่อีกแรง ส่วน Siri
เองก็มีแพลนที่จะแต่งงานกับคู่หมั้นผู้ตั้งรกรากในอเมริกา จนวันนึง Chandu
ไปเจอกับเพื่อนเก่าสมัยประถมที่ชื่อ Ritu ก็เกิดหลงรัก
โตเป็นสาวแล้วสวยมากๆ หลังจากที่ Ritu รับรักเขาแล้วทุกอย่างก็หวานชื่นมาก
อย่างที่รู้ๆกันว่าเวลาคนเรามีแฟนก็จะห่างจากเพื่อน Chandu ก็เป็นแบบนั้น
จน Siri มีอาการคล้ายๆจะหึง และเมื่อถึงเวลาที่ Chandu
จะต้องไปออดิชั่นครั้งสำคัญในชีวิต Siri
ก็ยังตามไปเป็นกำลังใจและให้ความสำคัญมากทั้งๆที่คู่หมั้นตัวเองและ Ritu
ก็ตามไปด้วย
แต่ด้วยความสนิทสนมกันของทั้งคู่ก็ทำเอาคนอื่นๆเช่นเพื่อนร่วมวงหรือคนร่วมออดิชั่นพากันเข้าใจผิดไปหมดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน
และจากจุดนั้นเองความลำบากใจของทุกฝ่ายก็เกิดขึ้น
เรื่องราวจะจบยังไงคงต้องไปดูเอาเองนะ เราไม่สปอยล์เด็ดขาด
สิ่งที่เราชอบมากๆใน Oh My Friend
คือการที่เอาคำถามคลาสสิคที่คนทั่วทุกมุมโลกต่างก็ตั้งคำถามนี้ผ่านหลายยุคหลายสมัยมาทำเป็นพล็อตหลัก
ส่วนตัวไม่เห็นหนังฝรั่งหรือหนังไทยที่พูดถึงประเด็น
"ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้จริงเหรอ?" มานานมากแล้ว
หนังหลายๆเรื่องอาจจะพูดถึงการแอบรักเพื่อนสนิทก็จริงแต่ไม่ค่อยมีเรื่องไหนตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้เลย ขณะที่ Oh My Friend
เลือกที่จะสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา
ต่อยอดมาจากเมนไอเดียในย่อหน้าที่แล้ว
สิ่งดีงามตามท้องเรื่องที่ไม่ชมไม่ได้คือการใช้ไดอะล็อกที่บีบคั้นอารมณ์คนดูให้คล้อยตามได้อย่างแยบยล กับโจทย์ตั้งต้นที่ว่า
"ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันได้จริงเหรอ?"
หนังใช้ไดอะล็อกหลายๆอย่างที่ทำให้คนดูเอะใจและตั้งคำถามว่าหรือ Siri
จริงๆแล้วนางแอบรักพระเอกวะ
หรืออิสองตัวนี้มันรักกันอยู่ลึกๆแต่มันไม่รู้ตัววะ
เราเชื่อเลยว่าไม่ว่าใครที่ได้ดูจะต้องเกิดความรู้สึกแบบนั้นแน่ๆ
และไดอะล็อกหลายๆจุดก็มีอะไรที่จี้ใจคนที่มีเพื่อนสนิทต่างเพศอย่างเรามากๆ
ตอนนั้นสถานการณ์มันสุกงอมเต็มที่ ทุกๆคนรอบตัวต่างคิดว่า Siri กับ Chandu
รักกันแต่ต่างคนต่างไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง พ่อแม่ของ Chandu
ก็เลยเรียกเด็กทั้งสองคนมาคุย พ่อพูดทำนองว่าให้คิดดีๆว่ารักกันมั้ย
ถ้ารักกันก็พร้อมที่จะจัดการให้ ไม่ได้จะว่าอะไร
แต่ปล่อยไว้นานกว่านี้คงไม่ดีแน่ จะมีคนลำบากใจกันหลายฝ่ายนะลูก แต่ Chandu
บอกกับพ่อและแม่ว่า
พ่อกับแม่นั้นอาจจะเกิดมาในยุคที่ผู้หญิงกับผู้ชายไม่อาจจะเป็นเพื่อนกันได้สนิทใจ
ในชีวิตคนๆหนึ่งยุคโน้นถ้าจะสนิทกับคนต่างเพศคนไหนนอกครอบครัวเดิมของตัวก็คงจะเป็นสามีหรือภรรยาของตัวเอง แต่กับเด็กยุคผมมันไม่ใช่ ผมสนิทกับ Siri
มาตั้งแต่เด็ก กิน เล่น นอน มาด้วยกัน
แชร์ทุกๆโมเมนท์สำคัญชองชีวิตมาด้วยกันตลอด ทั้งสุข เศร้า เหงา ปัญหาต่างๆ
เราแชร์กันทุกอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่คิดจะแชร์กับเธอเลยก็คือเตียง
ให้ตายเถอะ ผมนอนกับเธอไม่ได้จริงๆ ไม่มีทางทำได้ และผมก็รัก Ritu มาก
รักคนละแบบกับความรักที่มีให้ Siri ที่เป็นรักแบบมิตรภาพ โหยยย
เป็นไดอะล็อกที่รัวยาวๆและโดนใจมาก
ในส่วนของแอ็คติ้งก็ไม่เลวเลย Siddharth เป็นนักแสดงที่ดีมีมาตรฐานอยู่แล้ว
แต่สำหรับ Shruti เราชอบผลงานเรื่องนี้ของเธอมากกว่าหลายๆเรื่องที่เคยได้ดู
สำหรับเราคือตีบทแตกน่ะ เป็นเพื่อนที่รักเพื่อนแบบบริสุทธิ์ใจจริงๆ
แต่ก็ต้องเล่นออกมาให้คนดูสับสนด้วยว่าตกลงมีการแอบรักมากกว่าเพื่อนเกิดขึ้นหรือเปล่า
เราว่ามันไม่ใช่ง่ายๆนะที่จะทำออกมาให้สื่อสารได้ชัดเจนน่ะเพราะมันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนมากที่จะถ่ายทอด
นักแสดงสมทบคนอื่นๆก็ถือว่าสอบผ่านอยู่ อย่าง Hansika Motwani ที่รับบทเป็น
Ritu ก็น่ารักหน้าหวานแบบสาวอวบดี
แต่สิ่งที่จะขอติก็คือฉากและเสื้อผ้า หน้า ผม
มันดูสะเหล่อกะเร้อกะรังในหลายๆฉาก คือเนื้อหา บท ไดอะล็อก
และแอคติ้งปูทางกันมาดีแล้วนะ งานเนี้ยบเฉียบขาดเลย
มาตกม้าตายเอาที่เรื่องพวกนี้ได้ยังไงไม่รู้
ใจนึงไม่อยากจะโทษว่าเป็นธรรมดาของหนังใต้
คนใต้มีรสนิยมอันเฉพาะตัวที่ฉูดฉาดหรือแปลกๆ
ไม่เข้ากับนิยามความสวยงามแบบสากลอย่างที่หนังบอลลีวู้ดหรือทั่วโลกเขามีกัน
มันก็พอเข้าใจได้แหละเพราะหลักๆเขาก็ทำขายคนของเขา
ไม่ได้ตั้งใจทำขายทั่วโลกซะหน่อย
แต่ด้วยความหงุดหงิดลูกตาก็เลยขอตัดคะแนนในส่วนนี้เยอะหน่อยแล้วกัน
ไม่รู้สิ แค่หน้าตา แอ็คติ้ง
และการเล่าเรื่องของทางใต้เราว่าก็มีเอกลักษณ์พอตัวแล้วนะ
อย่าเอารสนิยมเสื้อผ้า หน้า ผม
หรือฉากแบบแปลกๆมาเป็นอีกส่วนนึงของเอกลักษณ์ที่อาจจะมีคนมองในแง่ลบดีกว่า
ท้ายสุดนี้เราแนะนำให้ทุกคนที่มีแฟนแล้วแฟนมีเพื่อนสนิทเป็นคนต่างเพศหรือคนที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนต่างเพศแล้วตัวเองมีแฟนหา Oh My Friend มาดูนะ
ดูเป็นตัวอย่างไว้ว่าในฐานะที่เราเป็นแฟน
เป็นคนที่เข้ามาในชีวิตแฟนเราทีหลังเพื่อน เราควรวางตัวเองไว้จุดไหน
หรือเรามีเพื่อนสนิทเป็นคนต่างเพศกับเรา
เราควรจะจัดการยังไงไม่ให้แฟนเราไม่สบายใจ ของแบบนี้มันแล้วแต่คู่
ไม่ได้มีอะไรตายตัวหรอก
แต่ในสังคมไทยแล้วเรามองว่าคนที่อยู่ในฐานะแฟนบางทีเรียกร้องความสำคัญมากไป
โดยลืมไปว่าตัวเองคือคนที่เข้ามาในชีวิตแฟนหลังจากเพื่อนเขาคนนั้นซะอีก
ผ่านทุกผ่านสุขด้วยกันมาก็น้อยกว่ามาก ก็ควรต้องคิดถึงตรงนี้ด้วย
ความสัมพันธ์จะได้ยืนยาว
0 comments:
Post a Comment
แสดงความเห็น แนะนำ ติชม เข้ามาได้ตามสะดวกนะ