กลับมาที่ฝั่ง Bollywood กันบ้างนะคราวนี้ แต่เราจะยังไม่พาไปรู้จักกับหนังใหญ่อะไร จะยังคงวนเวียนกับหนังฟอร์มเล็กอีกสักเรื่องก่อนแล้วกัน อยากให้ได้รู้ว่าหนังอินเดียโดยเฉพาะหนังฝั่ง Bollywood ที่เป็นหนังฟอร์มเล็ก ไม่มีดาราที่เป็นที่รู้จักมาดึงดูด แต่เป็นหนังที่มีพล็อตน่าสนใจนั้นมีเยอะมากเลย และหนังที่จะแนะนำวันนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เข้าข่ายนี้
Gangoobai เป็นหนังที่พูดถึงคุณป้าแก่ๆคนนึงที่ทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านคนมีฐานะในต่างจังหวัด มีอยู่วันนึงที่คุณพ่อเจ้าของบ้านซื้อส่าหรีอย่างสวยเลยให้ลูกสาว เป็นส่าหรีจากแบรนด์ดังที่ไฮโซทั่วฟ้าอินเดียให้ความไว้วางใจเลือกหามาสวมใส่ มันเป็นส่าหรีผืนที่งามมาก สีน้ำเงินและมีลายปักด้วยมืออย่างดี คุณป้าก็เลยอยากได้บ้าง แล้วคุณป้าก็เริ่มทำงานเก็บเงินอย่างหนัก รับงานเยอะแยะมาก ทั้งทำความสะอาด ทำสวน ซักผ้ารีดผ้าอะไร ป้าแกทำหมดเพื่อที่จะเก็บหอมรอมริบเอาไว้ซื้อส่าหรีราคาแพงผืนนั้น หลังจากที่เก็บเงินได้ครบแล้วคุณป้าก็เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อไปซื้อส่าหรี และการผจญภัยในเมืองหลวงของคุณป้าก็เริ่มต้นขึ้น
เราต้องยอมรับนะว่าเนื้อเรื่องมันดึงดูดความสนใจเรามากเลย ในความรู้สึกของคนไทยที่เข้าใจว่าคนอินเดียมีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะกัน การที่คนระดับคนใช้จะเก็บเงินเพื่อไปซื้อของแบรนด์แบบที่คนรวยๆเขาใช้กันมันเลยกลายเป็นเรื่องน่าสนใจขึ้นมาได้ อาจจะเฉพาะเราคนเดียวหรือเปล่าไม่รู้ แต่เราชอบ execution ที่หนังใช้ ถ้าเป็นหนังหรือละครไทยอาจจะเลือกนำเสนอที่ความเปิ่นความเชยของคนบ้านๆที่ต้องมาทำอะไรตามวิถีที่คนรวยๆเขาทำกัน แล้วคนก็จะขำจากความตลกตรงนั้น แต่ถามว่าในความเป็นจริงแล้วเราควรรู้สึกว่ามันน่าตลกขบขันเหรอกับการที่คนที่มีฐานะไม่สู้ดีนักจะเก็บเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่คนมีกะตังค์เขาใช้กันหรือมีโอกาสได้ทำอะไรหรูๆแพงๆแล้วปล่อยไก่ออกมาบ้าง แต่ Gangoobai กลับเลือกที่จะไม่ look down คนพวกนั้น เขากลับทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆเลยกับการที่ป้าแม่บ้านสักคนจะเก็บเงินจำนวน 45 thousand รูปีไปซื้อส่าหรีแบรนด์แพงๆแบบลูกไฮโซ ไอ้ตรงเนี้ยมันทำให้เราดูแล้วรู้สึกว่าความเป็นคนมันเท่าเทียมกันดีนะ แม้ว่าป้าแกจะเป็นคนใช้ ซักผ้า ตากผ้า โกยขี้ม้าในคอก แต่เมื่อแกสามารถเก็บเงินได้ถึงราคาส่าหรีราคาแพงสักผืน แล้วเข้าร้านไปชี้ว่าฉันจะเอาผืนนี้ค่ะ จะยังมีใครหน้าไหนหรืออะไรมาขัดขวางแกทางชนชั้นได้อีก ตรงนี้ทำให้ได้ข้อสรุปว่าการทำตามความฝันของตัวเองแม้แต่เรื่องของชนชั้นก็ไม่อาจมีพลังเหนือกว่าได้ สมกับคอนเส็ปท์ dare to dream ที่โปรยไว้ในโพสเตอร์จริงๆ
แต่ข้อติที่มันตามมาจากข้อดีอันเมื่อกี้มันก็มีและจัดว่าใหญ่พอสมควรด้วย จะเล่าเนื้อเรื่องคร่าวๆเพื่อไม่ให้สปอยล์จนหมดสนุกแล้วกันนะ คือหลังจากที่ป้าแกไปที่ร้านส่าหรี แกก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีมากๆจากดีไซเนอร์และแวดวงไฮโซที่นั่น ซึ่งตรงนี้มันดูจะขัดกับสภาพความเป็นจริงของโลกไปหน่อยในความคิดเราน่ะ ไม่ได้จะบอกว่าคนรวยหรือไฮโซต้องหยิ่งยะโส ไม่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนระดับแม่บ้านหรือคนใช้อะไรแบบนั้นเลยนะ แต่ถ้าได้ดูจบแบบเราจะเห็นเองว่าคนพวกนั้นให้ความสนิทสนม ความไว้ใจ วางใจ กับป้าแกมากไป ทั้งๆที่เป็นคนที่เพิ่งรู้จักกัน ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอะไรมากมาย แต่ทำดีด้วยอย่างชนิดที่ว่ายูเป็นคนดีมากๆ ไม่รังเกียจคนจากต่างชนชั้นเลย ดีเลิศประเสริฐศรีกันหมดทุกคนในที่ตรงนั้น อารมณ์ที่รู้สึกคือ too good to be true น่ะ เข้าใจเราใช่ปะ มันเกินจริงไปหน่อยอะเราว่า ไม่น่าจะโชคดีเจอแต่คนที่ดีหมดขนาดนั้น ไม่มีใครร้ายใส่เลย ดียันตอนจบอะ ดีจนต้องแปลกใจว่ากับคนที่เพิ่งเจอและไม่ได้ทำบุญทำคุณอะไรให้กันมาก่อนมันจำเป็นต้องดีต่อกันมากขนาดนี้เลยเหรอวะ เพื่อนก็ไม่ใช่ ญาติรึก็เปล่า อืม ต้องลองไปดูเองแล้วจะเข้าใจว่าเราไม่ได้ติเกินจริงไปคนเดียว
ถึงเนื้อเรื่องส่วนนึงจะดูเวอร์เกินไปอย่างที่พูดเมื่อกี้ แต่มันก็มีจุด conflict ในแบบที่เราคาดไม่ถึงเลยนะ คือไม่คิดว่าจะเลือกเอาจุดนี้มาเป็น conflict ของเรื่องอะ ก็คงต้องไปดูเองเพราะเราจะไม่บอกว่ามันคือตรงไหน และก็ยังมี sub plot ที่เฉลี่ยน้ำหนักของตัวละครให้ไม่น่าเบื่อด้วย น้ำหนักทั้งหมดไม่ได้เทไปที่การตามล่าหาส่าหรีราคาแพงของคุณป้าอย่างเดียว แต่มันเหมือนกับว่าการมาถึงของคุณป้าผู้เก็บเงินตามหาส่าหรีราคาแพงนั้นได้มีส่วนเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในแวดวงไฮโซในเรื่องอย่างไรบ้าง ต้องค่อยๆดูไปจนจบแล้วจะเข้าใจ หน้าหนังมันเหมือนจะตลกหรือชวนให้คนดูลุ้นไปกับการเก็บเงินซื้อส่าหรีไฮโซ ตอนแรกอาจจะคิดว่าจุดพีคอยู่ที่ฝ่าฟันจนได้ส่าหรีมาครองแล้ว happy ending ตรงนั้น แต่จริงๆเนื้อเรื่องพาร์ททำงานเก็บเงินจะสั้นมาก แล้วไปเทน้ำหนักอยู่ที่เนื้อเรื่องหลังจากป้าแกเข้ามุมไบมาแล้วแทน
และสิ่งที่ดีอีกหนึ่งอย่างคือการแสดง ดาราในเรื่องนี้เราไม่รู้จักสักคนเลย ไม่รู้จักขนาดที่ว่าแทบจะไม่ต้องแท็กชื่อยังได้เพราะไม่คิดว่าจะได้ดูหนังที่พวกเขาเล่นอีกแล้ว (แต่เอาจริงๆก็ต้องแท็กอยู่ดี ไม่งั้นจะไม่สมบูรณ์) ทุกคนแสดงได้มาก แม้เราไม่รู้จักมาก่อนแต่ทำให้เราสนใจหนังได้ อยู่ที่พล็อตและการแสดงจริงๆ ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้แบบแอ็คติ้งทรงพลังอะไรมากมายขนาดนั้นเลยนะ แต่พอมันรวมออกมาแล้วมันน่าดูอะ มันละเมียดบอกไม่ถูก
ถ้าจะให้สรุปหรือเชื้อชวนอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ก็คงต้องบอกว่าดูเถอะถ้าอยากสนับสนุนหนังฟอร์มเล็กจาก Bollywood ดูเถอะถ้าชอบหนังฟีลกู้ดในแบบอินเดีย ดูเถอะถ้าหลงใหลในเสื้อผ้าสวยๆหรือส่าหรี เพราะขนาดหญิงไม่ใช่ ชายก็ไม่เชิงอย่างเรา ดูแล้วยังอยากจะมีส่าหรีไว้ในครอบครองเองสักผืนเลยละ
0 comments:
Post a Comment
แสดงความเห็น แนะนำ ติชม เข้ามาได้ตามสะดวกนะ